วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

แรงบิดและแรงม้าคืออะไร

แรงบิด คือแรงที่เกิดขึ้นเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ลงในจังหวะของการจุดระเบิดก้านสูบก็จะไปดันข้อเหวี่ยงให้เกิดการหมุน เป็นการจ่ายแรงบิด ให้เพลาข้อเหวี่ยงซึ่ง แรงท่ีใช้ในการหมุน เพลาข้อเหวี่ยงนี้เราเรียกว่า แรงบิด ดังนั้น แรงผลักดันบนลูกสูบยิ่งมากเท่าไหร่แรงบิดที่จะได้รับก็จะย่ิงมากขึ้นเท่านั้น และความดันจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงยิ่งสูงเท่าไหร่จำนวนแรงบิดที่เครื่องยนต์สร้างขึ้นก็จะยิ่งมากขึ้นตามจำนวนส่วนค่าของแรงบิดท่ีใช้กันมีหน่วยเป็นนิวตัน/เมตร

แรงบิด (Torque) คือ แรงพยายามของการหมุน สามารถคำนวนได้จากสูตร



สมการ Torque = F x r
F = ค่าของแรงกระทำมีหน่วยเป็น นิวตัน (N)
r = รัศมีรอบการหมุน เนื่องจากแรงกระทำ มีหน่วยเป็น เมตร (m)

แรงม้า (Horse Power)
ริเริ่มขึ้นครั้งแรกในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศอังกฤษ ซึ่งม้าเป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อนเครื่องจักร โดย “เจมส์ วัตต์”นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียง ที่เป็นผู้พัฒนาเครื่องจักรไอน้ำให้มีประสิทธิภาพ จนกลายเป็นพลังขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมและที่มาของคำว่าแรงม้า เป็นการเปรียบเทียบหน่อยพลังของของเครื่องจักร เครื่องยนต์ โดยแรงม้าเป็นหน่วยวัดกำลังของเครื่องยนต์ที่ได้จากการทำงานของแรงบิดที่ความเร็วใดๆต่อหน่วยเวลา



ตัวอย่างการคำนวณ


จากรูปกราฟบนเครื่องมือทดสอบไดโนเทสเป็นการทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ Honda CBR250R
ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ = 7300 รอบต่อนาที(RPM):แรงบิด (Torque) = 15.32 ฟตุ -ปอนด์(ft-lbs)


วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไซโครเมตริก



การใช้งานโดยทั่วไป

การนำหลักการไซโครเมตริก ที่ประกอบด้วยแก๊สผสมไอ ไปใช้กับระบบทางกายภาพใดๆ ซึ่งไซโครเมตริกเป็นระบบที่น่าสนใจ คือพบมากที่สุดในอากาศซึ่งมีไอน้ำผสมอยู่ มีการนำมาประยุกต์ใช้ในเครื่องทำความร้อน เครื่องระบายอากาศ และทางอุตุนิยมวิทยา สิ่งอำนวยความสะดวกของมนุษย์เราโดยส่วนใหญ่ ไม่ได้มีผลมาจากความร้อน แต่ขึ้นกับอุณหภูมิของอากาศโดยรอบ (การขับเหงื่อ) hycroscopic คือสารพวกที่สามารถดูดความชื้นจากบรรยากาศได้ดี มักจะอยู่ในสัดส่วนความชื้นสัมพัทธ์ หรือสูงกว่าความชื้นสัมพัทธ์ สารดังกล่าวเช่น ผ้าฝ้าย กระดาษ เซลลูโลส รวมถึงผลิตภัณฑ์ไม้อื่นๆ น้ำตาล แคลเซียมออกไซด์ (ปูนขาว) และสารเคมีจำนวนมาก และปุ๋ย อุตสาหกรรมที่ใช้วัสดุเหล่านี้ มีความกังวลในการควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ ในการผลิต และเก็บรักษาวัสดุดังกล่าว ในการใช้งานในอุตสาหกรรมการอบแห้งเช่น กระดาษแห้ง ผู้ผลิตต้องการความชื้นสัมพัทธ์ ต่ำ จึงพยายามปรับลดให้เหมาะสม โดยเพิ่มอัตราการอบแห้ง และการใช้พลังงานตามการเพิ่มขึ้นของความชื้นสัมพัทธ์ ซึ่งในการลดความชื้นสัมพัทธ์ส่งผลให้มีปริมาณไอเสียเพิ่มขึ้น โรงงานอุตสาหกรรมเห็นความสำคัญที่จะหลีกเหลี่ยงการทำระเหย หรือทำให้เกิดการกัดกร่อน ยีสต์ และราสามารถควบคุมได้โดยการรักษาความชื้นสัมพัทธ์ โดยทั่วไปเชื้อราไม่สามารถเจริญเติบโตที่ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ 75%

คุณสมบัติ Psychrometric

อุณหภูมิกระเปาะแห้ง

อุณหภูมิกระเปาะแห้ง คืออุณหภูมิที่วัดโดยเครื่องวัดอุณหภูมิที่สัมผัสกับอากาศโดยตรงโดยไม่สัมผัสกับแสงอาทิตย์โดยตรง อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นแตกต่างจากอุณหภูมิกระเปาะเปียกและ จุดน้ำค้าง

อุณหภูมิกระเปาะเปียก

อุณหภูมิความร้อนของกระเปาะเปียก เป็นความร้อนของส่วนผสมของอากาศและไอน้ำ ค่าที่วัดได้จากเครื่องวัดอุณหภูมิ มักจะมีค่าใกล้เคียงกับอุณหภูมิกระเปาะเปียก
การวัดอุณหภูมิกระเปาะเปียกนั้นในการวัดก็ใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบเดียวกับที่วัดแบบกระเปาะแห้ง แต่ที่กระเปาะปลายเทอร์โมมิเตอร์จะเอาผ้าชุบน้ำพอชุ่ม ๆ
พันกระเปาะเอาไว้และในตอนวัดก่อนที่จะอ่านก็จะต้องทำให้ปลายกระเปาะเปียกดังกล่าวเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ๆ หนึ่ง

ความชื้นสัมพัทธ์

อัตราส่วนโดยมวลของไอน้ำในอากาศในขณะหนึ่ง(ที่อุณหภูมิหนึ่ง) ต่อ ไอน้ำสูงสุดที่อากาศ (ที่อุณหภูมินั้น) สามารถแบกรับไว้ได้

อุณหภูมิจุดน้ำค้าง

อุณหภูมิที่เมื่ออากาศชื้นถูกทำให้เย็นลงขณะที่ปริมาณไอน้ำยังคงที่ การลดอุณหภูมิถึงจุดหนี่งจะทำให้ไอน้ำเกิดการอิ่มตัว และกลั่นตัวควบแน่นเป็นหยดน้ำ ที่ความดันบรรยากาศคงที่
“อุณหภูมิที่ความชื้นในอากาศเริ่มกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเมื่ออากาศถูกลดอุณหภูมิที่ความดันคงที่”

ความชื้น

ความชื้นจำเพาะ Specific Humidity

ความชื้น ถูกกำหนดให้เป็นสัดส่วนของมวลของไอน้ำต่อหน่วยมวลของกลุ่มตัวอย่างอากาศชื้น

ความชื้นสัมบูรณ์ Absolute humidity

มวลของไอน้ำต่อหน่วยปริมาตรของอากาศที่มีไอน้ำ ปริมาณนี้ที่รู้จักกันเป็นความหนาแน่นของไอน้ำ หน่วยโดยทั่วไป คือ กิโลกรัมความชื้น / กิโลกรัมอากาศแห้ง

ปริมาตรจำเพาะ (specific volume)

เป็นการเปรียบเทียบปริมาตรของของเหลวกับปริมาตรของน้ำ ที่น้ำหนักและอุณหภูมิเดียวกัน

อัตราส่วนPsychrometric

อัตราส่วนของค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อนให้กับผลิตภัณฑ์ของค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทมวลและความร้อนชื้นที่พื้นผิวเปียก

ความร้อนชื้น

เป็นความดันคงที่ความร้อนที่เฉพาะเจาะจงของอากาศชื้นต่อหน่วยมวลของอากาศแห้ง ความดัน คุณสมบัติไซโครเมตริกจะขึ้นอยู่กับความดันบรรยากาศที่สถานที่ตั้งของกลุ่มตัวอย่าง

วิธีการอ่านแผนภูมิ: ตัวอย่างพื้นฐาน

แผนภูมิ Psychrometric หน่วยที่ใช้ SI (เมตริก) และIP (สหรัฐฯ / อังกฤษ) โดยอยู่ในช่วงอุณหภูมิต่ำ และสูงและแรงกดดันที่แตกต่างกัน

พิจารณาความชื้นสัมพัทธ์

ร้อยละความชื้นสัมพัทธ์จะอยู่ที่แนวจุดตัดของอุณหภูมิกระเปาะเปียก แสดงเส้นแนวนอน ไปยังเส้นแนวทแยงมุมลาดลงมาที่
อุณหภูมิกระเปาะแห้งที่ 25 องศา และอุณหภูมิกระเปาะเปียก 20 องศา อ่านความชื้นสัมพัทธ์ ประมาณ 63.5% ในตัวอย่างนี้อัตราส่วนความชื้นไอน้ำ 0.0126 kg/kg ของอากาศแห้ง

พิจารณาผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิความชื้นสัมพัทธ์

สำหรับอากาศที่มีน้ำผสมอยู่คงที่หรืออัตราความชื้น เราสามารถหาความชื้นสัมพัทธ์โดยเริ่มต้นจากอุณหภูมิกระเปาะเปียก
และอุณหภูมิกระเปาะแห้งโดยใช้เงื่อนไขตัวอย่างข้างต้นนี้ ที่ความชื้นสัมพัทธ์แตกต่างกันอุณหภูมิกระเปาะแห้งสามารถหาได้จาก แนวอัตราส่วนความชื้นเส้นแนวนอนของไอน้ำ 0.0126 kg/kg
อากาศแห้ง หรือปอนด์ของไอน้ำต่อปอนด์ อากาศแห้ง รูปแบบที่พบบ่อยของปัญหานี้คือ การกำหนดความชื้นสุดท้ายของอากาศที่ออกจากคอยล์เย็นของเครื่องปรับอากาศ
โดยความร้อนมีอุณหภูมิสูงขึ้น สมมติว่าอุณหภูมิออกจากขดลวด 10 องศา (50 F) และความร้อนที่อุณหภูมิห้อง (ไม่ผสมกับอากาศในห้อง )
ซึ่งพบได้ตามอัตราส่วนความชื้น ในเส้นแนวนอนตามจุดน้ำค้าง หรือเส้นอิ่มตัวไปยังเส้นกระเปาะแหง และอ่านค่าความชื้น

พิจารณาปริมาณน้ำที่ถูกกำจัดออกหรือเพิ่ม เมื่อลดหรือเพิ่มความชื้น

นั่นคือความแตกต่างของอัตราส่วนความชื้น ระหว่างเงื่อนไขเริ่มต้น และสุดท้ายของน้ำหนักของอากาศแห้ง

การตั้งค่าบนแผนภูมิ

อุณหภูมิกระเปาะแห้ง

คือ อุณหภูมิที่วัดจากเทอร์โมมิเตอร์ธรรมดา
เส้นนี้จะวาดตรงไม่ขนานไปกับเส้นอื่นและเอียงเล็กน้อยในตำแหน่งในแนวตั้ง นี่คือเส้นแกน, พิกัด(แนวนอน) แกนแต่ละบรรทัดหมายถึงอุณหภูมิคงที่
อุณหภูมิกระเปาะแห้ง

อุณหภูมิจุดน้ำค้าง

อุณหภูมิหยดน้ำค้างของอากาศที่จุดต่าง ๆ โดยลากเส้นจากจุดนั้นขนานไปกับเส้นปริมาตรจำเพาะไปทางขวามือไปชนกับเส้นอากาศอิ่มตัว

อุณหภูมิจุดน้ำค้าง

อุณหภูมิกระเปาะเปียก

เส้นนี้เป็นเส้นเฉียงที่ต่างออกไปเล็กน้อยจาก เส้นเอนทัลปี มีความเหมือนตรงกัน แต่ไม่ขนานกัน แต่ละอันตัดโค้งที่จุดอิ่มตัวที่จุด DBT

อุณหภูมิกระเปาะเปียก

ความชื้นสัมพันธ์

เส้นกับความจริงจะปรากฏในช่วงเวลา ของ 10% เส้นโค้งมีความอิ่มตัวอยู่ที่100% ในขณะที่อากาศแห้งอยู่ที่ 0% RH

ความชื้นสัมพันธ์

อัตราส่วนความชื้น

เป็นเส้นแนวนอนบนแผนภูมิ อัตราส่วนความชื้นจะแสดงเป็นมวลของความชื้นต่อมวลของอากาศแห้ง(ปอนหรือความชื้นต่อปอนด์หรือกิโลกรัมของอากาศแห้งตามลำดับ)
ช่วงจาก 0 ถึงอากาศแห้ง0.03(Ibmw/LBMA) บนขวามือ W แกนประสานหรือแกนแนวตั้งของแผนภูมิ


อัตราส่วนความชื้น

ปริมาตรจำเพาะของอากาศ (Specific Volume, Submit)

ปริมาตรจำเพาะ คืออัตราส่วนระหว่างปริมาตร (Volume) ต่อมวล (Mass) ของอากาศ มีหน่วยเป็นลูกบาศก์เมตรต่อกิโลกรัม (m3/kg) ในระบบ SI
เป็นที่ทราบกันดีว่าอากาศมีคุณสมบัติในการขยายตัวตามอุณหภูมิที่ความดันคงที่ (Constant Pressure) ในสภาวะความดันคงที่ถ้าอุณหภูมิต่ำอากาศ
จะมีปริมาตรจำเพาะน้อยหมายถึงน้ำหนักอากาศต่อหน่วยปริมาตรจะมากในทางตรงกันข้ามถ้าอุณหภูมิขออากาศสูงขึ้นอากาศจะขยายตัวออกทำให้ปริมาตรจำเพาะ
ของอากาศของอากาศมากขึ้น ซึ่งก็คือน้ำหนักของอากาศต่อหน่วยปริมาตรจะลดลงหรืออากาศเบาขึ้นนั่นเอง

ปริมาตรจำเพาะของอากาศ

เอนทัลปี

เป็นเส้นเฉียงวาดแนวทแยงมุมลงจากซ้ายไปขวาข้าม แผนภูมิที่ขนานกัน เส้นนี้จะไม่ขนานกับเส้นอุณหภูมิกระเปาะเปียก ปริมาณที่เฉพาะนี้จะมีระยะห่างที่เท่าๆกัน
เส้นตรงขนานกัน ด้านบนเส้นอิ่มตัวเป็นพื้นที่ 2 เฟส ที่แสดงถึงการปนอยู่ของอากาศชื้นที่อิ่มตัว และน้ำของของเหลวที่อุณหภูมิคงที่ จากมุมด้านซ้ายบน ของกราฟ
เครื่องชั่งน้ำหนัก แสดงให้เห็นถึงระดับความร้อนภายในอัตราส่วนที่เหมาะสมรวม(SHF) ซึ่งบอกว่าอัตราส่วนของความแตกต่างเอนทัลปีมีความแตกต่างที่มีความชื้น
จะใช้ในการสร้างความลาดชันของกราฟ ระหว่าง 2 ส่วน แนวนอนของเส้นซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปในความร้อนที่เหมาะสม ในขณะที่องค์ประกอบในแนวตั้ง คือการเปลี่ยนแปลงของความร้อนแฝง

เอนทัลปี

แผนภาพมอลเลียร์( เอนทัลปี - อัตราส่วนความชื้นผสม)

พัฒนาโดยริชาร์ด มอลเลียร์ ในปี พ.ศ. 1923 เป็นแผนภูมิไซโครเมตริกทางเลือก ผู้ใช้หลายคนต้องการในสแกนดิเนเวีย ยุโรปตะวันออกและรัสเซีย
ข้อมูลพารามิเตอร์”ไซโครเมตริกสำหรับแผนภูมิไซโครเมตริกและแผนภาพของมอลเลียร์เหมือนกัน พิกัดแผนภาพของมอลเลียร์จะมีอัตราเอนทัลปีและความชื้น
เอนทัลปีประสานงานเป็นเบ้และเส้นของเอนทัลปีคงที่ขนาน และระยะห่างจะเท่าๆกัน บางแผนภูมิไซโครเมตริกใช้อุณหภูมิกระเปาะแห้ง และพิกัดอัตราส่วนความชื้น

ความชื้นสัมพัทธ์

ความชื้นสัมพัทธ์ (relative humidity, RH) คือ อัตราส่วนของปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศต่อปริมาณไอน้ำอิ่มตัวที่สภาวะความดันและอุณหภูมิเดียวกัน มักแสดงในรูปร้อยละ ความชื้นสัมพัทธ์ (relative humidity) หาได้จากความสัมพันธ์กับอุณหภูมิกระเปาะเปียก (wet bulb temperature) และอุณหภูมิกระเปาะแห้ง (dry bulb temperature) จากความสัมพันธ์ในแผนภูมิไซโครมิทริก (psychrometric chart)
ค่าความชื้นสัมพัทธ์เป็นสภาวะที่ต้องควบคุมในการกระบวนการแปรรูปอาหารและเก็บรักษาอาหาร เช่น
  • การแช่เย็นผักและผลไม้
  • การแบ่งกลุ่มผักผลไม้ตามอุณหภูมิแช่เย็นและความชื้นสัมพัทธ์
  • การผลิตขนมปัง (bread) โดยเฉพาะขั้นตอนการหมักสปองจ์ และการหมักโด (proofing)
  • การแช่เย็น (cold storage) เพื่อเก็บรักษาอาหารสด เช่น การแช่เย็นผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ และสัตว์ปีก
  • การอบแห้งอาหาร (dehydration) ด้วยเครื่องอบ (drier)
  • ห้องเก็บรักษาอาหารแช่เยือกแข็ง (frozen food)
  • ไซโล (silo) สำหรับเก็บอาหารแห้ง (dried food)
การวัดค่าความชื้นสัมพัทธ์
ความชื้นสัมพัทธ์วัดได้ด้วยการวัดอุณหภูมิกระเปาะแห้งและอุณหภูมิกระเปาะเปียก อุณหภูมิกระเปาะแห้งเป็นวัดอุณหภูมิของอากาศโดยปกติ ส่วนอุณหภูมิกระเปาะเปียก เป็นการวัดอุณภูมิ ซึ่งกระเปาะของเทอร์โมมิเตอร์ถูกหุ้มห่อด้วยวัสดุที่ชุ่มน้ำและหล่อไว้ด้วยน้ำ


หากอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ น้ำจะสามารถระเหยกลายเป็นไอได้มากและรวดเร็ว จะทำให้อุณหภูมิของกระเปาะเปียกต่ำกว่าอุณหภูมิของกระเปาะแห้งมาก แต่ถ้าในอากาศมีความชื้นสูง อัตราการระเหยการเป็นไอของน้ำของกระเปาะเปียกจะน้อยลง ทำให้การนำพาความร้อนออกไปได้น้อยลง และเมื่อใดที่ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศเป็น 100% อัตราการระเหยของน้ำในกระเปาะเปียกจะเป็นศูนย์ด้วย ทำให้ไม่มีความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของกระเปาะเปียกและกระเปาะแห้งทั้งสอง เมื่อเราทราบอุณหภูมิของกระเปาะเปียกและกระเปาะแห้งแล้ว เราสามารถหาความชื้นสัมพัทธ์ได้จาก
ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิกระเปาะเปียก อุณหภูมิกระเปาะแห้งและความชื้นสัมพัทธ์
หรือ การเทียบกับแผนภูมิไซโคเมตริก (Psychrometric chart)

อุณหภูมิกระเปาะเปียก (wet bulb temperature)

อุณหภูมิกระเปาะเปียก (wet bulb temperature) คือ อุณหภูมิของอากาศที่วัดได้ด้วยเทอร์โมมิเตอร์ที่กระเปาะถูกหุ้มด้วยผ้าเปียก เมื่อมีอากาศไหลผ่าน การวัดที่ถูกต้องควรจะวัดเมื่อลมผ่านกระเปาะเปียกด้วยความเร็วประมาณ 2 เมตรต่อวินาที

ผลต่างของอุณหภูมิกระเปาะเปียกกับกะเปาะแห้ง (dry bulb temperature) ขึ้นอยู่กับปริมาณความชื้นในอากาศ ซึ่งสัมพันธ์กับค่าความชื้นสัมพัทธ์ (relative humidity) ผลต่างของอุณหภูมิกระเปาะเปียกและอุณหภูมิกะเปาะแห้ง จะต่างกันน้อยหากปริมาณน้ำในอากาศน้อย เนื่องจากน้ำจะระเหยได้น้อยลง
อุณหภูมิกระเปาะเปียกและกระเปาะแห้งจะมีค่าเท่ากันเมื่ออากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ หรือมีความชื้นสัมพัทธ์ 100 เปอร์เซ็นต์

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำนวนบีทียูแอร์ ก่อนเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ

    

คำนวนบีทียูแอร์ ก่อนเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ

         สำหรับคนที่กำลังคิดจะติดแอร์ที่บ้านซักเครื่องอยู่ในตอนนี้ สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรกก็คือห้องนั้นเป็นห้องอะไร ใช้งานแบบไหน  มีพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อเป็นข้อมูลในการคำนวณหาขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศแบบคร่าวๆที่ เหมาะสมกับห้องนั้นๆ  เครื่องปรับอากาศจะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่ทำงานหนักเกินไป  ข้อมูลเหล่านี้เมื่อคุณทราบแล้วสามารถนำไปใช้สำหรับการเลือกซื้อเครื่องปรับ อากาศต่อไป
การวัดพื้นที่ทำความเย็น
การวัดพื้นที่ห้องนั้น ควรวัดออกมาเป็นตารางเมตร และพยายามวัดให้ครบทั่วถึง เช่น  หากคุณวัดพื้นที่ในห้องนอน ควรวัดพื้นที่ในห้องน้ำด้วย หากต้องการแอร์เย็นถึงในห้องน้ำ ถ้าหากไม่วัดพื้นที่ในห้องน้ำด้วย แต่นำพื้นที่แค่ในห้องนอนมาคำนวณหาบีทียูแอร์ก็จะได้ขนาดทำความเย็นแค่ใน ห้องนอนแต่ใช้งานจริงก็เปิดประตูห้องน้ำไว้แล้วก็บ่นว่าแอร์ไม่เย็นนั่นเอง  ห้องนั่งเล่นที่มีฉากกั้นห้องครัว และห้องน้ำ ก็ต้องวัดพื้นที่ในห้องครัวและห้องน้ำด้วย ส่วนความสูงของเพดานกำหนดไว้ไม่เกิน 3เมตร
การคำนวณขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
เมื่อได้พื้นที่ห้องมาแล้วเราก็สามารถทำมาคำนวณบีทียูแอร์ได้เองแบบ คร่าวๆได้ดังนี้ โดยใช้สูตร  บีทียูแอร์=กว้าง(เมตร)xยาว(เมตร)xตัวแปร
ตัวแปรสำหรับการหาบีทียูแอร์
x800 สำหรับห้องนอน
x900 สำหรับห้องนั่งเล่น, ห้องรับแขกที่มีคนไม่เกิน 4คน
x1000 สำหรับออฟฟิตหรือสำนักงานที่มีคนทากกว่า 4คน, ห้องออกกำลังกาย, ห้องที่มีผนังเป็นกระจก
ตัวอย่างเช่น 
ห้องนอนขนาด 12 ตารางเมตร นำ 12×800=9600 บีทียู/ชั่วโมง และเราสามารถเลือกแอร์ที่มีบีทียูแอร์ใกล้เคียงกับบีทียูแอร์ที่เราคำนวนได้ เช่น 9,000บีทียู หรือ 11000บีทียู ได้เช่นกัน
**หมายเหตุ : หากฝ้าเพดานสูงเกินกว่า 3เมตร ให้เพิ่มตัวแปรเป็นเมตรและ 5%
นั้นเป็นข้อมูลการคำนวณบีทียูแอร์แบบง่ายๆสำหรับบ้านเรือนหรือสำนักงาน ทั่วๆไป ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ในประเทศไทยที่อากาศค่อนข้างร้อน อบอ้าว สำหรับการคำนวณขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศสำหรับพื้นที่ทำความเย็นใน ห้องเฉพาะเจาะจง หรือสำหรับการปรับอากาศสำหรับห้องพิเศษ เช่น ห้องผ่าตัด ปลอดเชื้อ ในโรงพยาบาล, ห้องเก็บอาหาร, ห้องเครื่องไฟฟ้า, ห้องเครื่องเซิร์ฟเวอร์  เป็นต้น จำเป็นต้องมีการคำนวณการโหลดความร้อนและอื่นที่ละเอียดและซับซ้อนมากกว่า และต้องเป็นวิศวกรที่มีใบอนุญาตออกแบบเท่านั้น จึงจะได้เครื่องปรับอากาศที่สามารถรักษาอุณหภูมิในห้องนั้นๆได้อย่างแม่นยำ

ปรับปรุงบ้านให้พร้อมก่อนติดตั้งเครื่องปรับอากาศ

    

ปรับปรุงบ้านให้พร้อมก่อนติดตั้งเครื่องปรับอากาศ


         ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาเพื่อติดตั้งในบ้านของคุณ เพื่อปรับอากาศในบ้านหรือห้องของคุณให้อยู่สบายยิ่งขึ้น ควรปรับปรุงตัวบ้านหรือห้องของคุณ เพื่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศที่จะนำมาติดตั้งทำงานได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ และไม่มีความร้อนจากที่อื่นมาเพื่อทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นกว่า ที่ตัวเครื่องสามารถทำไห้ ลองเช็คดูว่าบ้านคุณทำสิ่งเหล่านี้หรือยัง
  1. ปลูกต้นไม้รอบๆตัวบ้าน  นอกจากต้นไม้จะช่วยให้ร่มเงากับตัวบ้านแล้ว ยังช่วยให้ความร้อนไม่ต้องสัมผัสกับผนังโดยตรง ช่วยลดการนำความร้อนของผนังได้อีกทางหนึ่ง
  2. ติดตั้งกันสาด  ที่ด้านนอกของตัวบ้านตรงหน้าต่างที่เป็นกระจก ในอยู่ทิศตะวันออก ทิศตะวันตกและทิศใต้ เพื่อป้องกันแสงแดดลอดเข้ามาในห้อง
  3. ติดตั้งฉนวนกันร้อน บนฝ้าเพดาน ใต้หลังค่า เพื่อป้องกันความร้อนที่แผ่ลงมาจากหลังคาสูห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
  4. อุดรอยรั่วตามผนังห้อง ช่องประตูหน้าต่าง รอยรั่วต่างๆในห้องทำให้อากาศข้างนอก ความร้อนลอดผ่านเข้ามาในห้อง
  5. ทาสีภายนอกที่ช่วยลดการนำความร้อน  สีภายนอกสีขาวหรือสีอ่อนช่วยลดการนำความร้อนผ่านผนังได้ดี
  6. พื้นที่สำหรับติดตั้งคอนเด็นซิ่ง เลือกสถานที่ไม่ไกลจากตัวบ้าน อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซ่อมบำรุงได้ง่าย เพื่อสำหรับติดตั้งคอนเด็นซิ่ง
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องปรับปรุงทั้งหมดหรอกครับ แต่ว่าหากปรับปรุงตามรายการข้างต้นแล้วจะดีมาก สำหรับบ้านหรือห้องที่ต้องการจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เพรานอกจากช่วยไม่ให้อากาศ และความร้อนภายนอกอาคารเข้ามาในพื้นที่ปรับอากาศที่สามารถเพิ่มภาระทำความ เย็นให้เครื่องปรับอากาศได้ บ้านของคุณจะน่าอยู่และเย็นมากขึ้นโดยที่ใช้เครื่องปรับอากาศน้อยลดอีกด้วย ครับ หรือค่อยปรับปรุงไปที่ละอย่างก็ได้ครับเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

การปรับอากาศเพื่ออะไร ทำไมต้องปรับอากาศ?

  

การปรับอากาศเพื่ออะไร ทำไมต้องปรับอากาศ?

     นอกจากเครื่องปรับอากาศที่เรารู้กันอยู่แล้ว ใช้เพื่อปรับอากาศให้เย็นสบายเหมาะแก่การอาศัย พักผ่อน ทำงาน หรือกิจกรรมอื่นๆของคนเรา แล้ว คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากการปรับอากาศเพื่อให้คนเราอยู่สบาย มีการวิจัยว่าการปรับอากาศให้สบายสำหรับคนงาน จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่อง ปรับอากาศ คนเรายังใช้การการปรับอากาศเพื่อสิ่งอื่นด้วย วันนี้ watcharaaircon.com จะพาคุณไปรู้จักการปรับอากาศเพื่อจุดประสงค์อื่นๆกันครับ
  • อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ การลดความชื้นในอากาศช่วยให้การพิมพ์ภาพสีในโรงพิมพ์ ได้ภาพที่ออกมาได้สีสดใส สม่ำเสมอ ตามที่ต้องการได้
  • อุตสาหกรรมสิ่งทอ  การเพิ่มความชื้นในอากาศขึ้นเล็กน้อยกว่าในอากาศปกติ ทำให้รักษาความนุ่ม และคุณภาพของเส้นด้ายที่จะนำมาทอเป็นผืนผ้า
  • อุตสาหกรรมเหล็กกล้า การทำให้อากาศแห้ง ก่อนที่จะนำเหล็กไปเข้าเตาหลอม จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติของเหล็กกล้า และลดปริมาณของเชื้อเพลิงที่ใช้หลอมละลายเหล็ก
  • อุตสาหกรรมยา  การปรับอากาศในโรงงานผลิตยาเพื่อรักษาความสะอาด ปราศจากฝุ่นละอองและแบคทีเรีย เพื่อไม่ให้ยามีสิ่งเจือปน และช่วยรักษาคุณภาพยา
  • ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จากการทดลองพบว่าในฤดูร้อนถ้าปรับอุณหภูมิให้เย็นสบายในโรงเลี้ยงสัตว์ พวก วัว ควาย หมู ไก่ เป็นต้น จะทำให้สัตว์เหล่านี้มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
  • อุตสาหกรรม CANDY ได้แก่พวกลูกกวาดชนิดต่าง ๆ ช็อกโกแลตชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ในอุตสาหกรรมประเภทนี้ต้องการทำความเย็น โดยเฉพาะการปรับอากาศจำเป็นอย่างยิ่ง ภายหลังที่ผลิตช็อกโกเลต ซึ่งอาจจะเป็นแผ่น เป็นเม็ด และเป็นก้อน ควรจะต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 4-10 องศาเซลเซียส เพื่อให้คงรูป การเก็บรักษาลูกอม ควรจะเก็บที่มีอุณหภูมิต่ำเพียงพอ เพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันการติดกันของลูกอมด้วย
เห็นไหมครับว่าการปรับอากาศนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับหลายกิจการ และกิจกรรม ให้คนเราสามารถเพิ่มผลผลิต หรือเพิ่มคุณภาพของสินค้า การวิจัยพบว่า การติดตั้งเครื่องปรับอากาศนั้นได้ผลที่คุ้มค่า เช่น ในสำนักงาน คนงานทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือในร้านอาหารก็มีคนเข้ามารับประทานอาหารมากยิ่งขึ้นด้วย และการปรับอากาศไม่ได้หมายถึงทำให้อากาศเย็นลงอย่างเดียวและใช้เครื่องปรับ อากาศอย่างที่เราเห็นอยู่ทั่วไป แต่การปรับอากาศเป็นทั้งการปรับเพิ่ม-ลดอุณหภูมิ ความชื้นของอากาศ ความสะอาดของอากาศ และการไหลเวียนของอากาศให้เป็นไปตามความต้องการ เพื่อจุดประสงค์ที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นเองครับ